สิ่งที่ควรทราบเมื่อเสร็จการผ่าตัด
-
ผู้ป่วยจะตื่นจากการทำผ่าตัดพร้อมมีสายต่าง ๆ ทั่วร่างกาย เช่น สายจากการให้น้ำเกลือ สายสวนปัสสาวะ สายระบายเลือดจากแผลผ่าตัด และสายที่ทำการบันทึกสัญญาณชีพจากอวัยวะต่าง ๆ
-
ผู้ป่วยจะถูกตรวจประเมินระบบประสาททันทีหลังจากที่เริ่มตื่น เช่น ขอให้ทำการกระดกข้อเท้า กระดกนิ้วโป้งเท้า
-
สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ต้องอยู่ ICU หลังการผ่าตัดจะถูกย้ายไปอยู่ที่ห้องพักฟื้นเพื่อสังเกตอาการประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง
-
สำหรับผู้ป่วยที่ต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด อาทิ ผู้ป่วยสูงอายุจะได้รับคำแนะนำให้พักที่ห้องอภิบาลใกล้ชิด (ICU) 1 วันก่อนย้ายไปห้องพักผู้ป่วยปกติ
-
ในการผ่าตัดทางกระดูกสันหลังบางเทคนิควิธีอาจจำเป็นต้องงดน้ำงดอาหารต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่ผู้ป่วยทั่วไปจะได้รับอนุญาตให้รับประทานอาหารอ่อนได้ใน 24 ชั่วโมง
-
เมื่อมีการปวดแผลผ่าตัดควรแจ้งพยาบาลเพื่อรับยาระงับปวด อาการปวดจะลดลงอย่างมากเมื่อผ่านไป 2 – 3 วัน
-
ผู้ป่วยที่ได้รับการดมยาสลบและใส่ท่อช่วยหายใจอาจมีอาการเจ็บคอ ปากแห้ง หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจียนหลังผ่าตัดได้
-
ผู้ป่วยที่ได้รับการฉีดยาชาเข้าช่องไขสันหลังหรือฉีดยาชาบริเวณเส้นประสาท ยาชาอาจยังไม่หมดฤทธิ์ทันที ควรระมัดระวังการกระแทก หรือโดนของร้อนจัด เย็นจัดบริเวณที่ยังชาอยู่
-
หลังผ่าตัดหากปัสสาวะไม่ออกให้แจ้งแพทย์หรือพยาบาล ซึ่งอาจจำเป็นต้องสวนปัสสาวะทิ้งเป็นการชั่วคราว
กี่วันหลังผ่าตัดจะลุกขึ้นเดินได้
โดยทั่วไปผู้ป่วยจะลุกยืนและฝึกเดินในวันที่ 2 หรือ 3 พร้อมกับการถอดสายสวนปัสสาวะและสายระบายเลือดออก อย่างไรก็ตามแพทย์จะพิจารณาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นกรณีไป
เมื่อไรแผลจะถูกน้ำได้
แผลจะถูกน้ำได้เมื่อแผลหายสนิทดี อาจใช้เวลาประมาณ 10 – 14 วัน แพทย์จะพิจารณาจากแผล และแจ้งให้ทราบอีกครั้งก่อนกลับบ้าน
ทำไมบางคนแผลหายช้า
การหายของแผลขึ้นกับขนาด ความลึก ตำแหน่ง ตลอดจนการไหลเวียนโลหิตในบริเวณแผล นอกจากนี้ความแข็งแรงของผู้ป่วย อายุ และภาวะทางโภชนาการโรคประจำตัวบางอย่างจะมีผลทำให้แผลหายช้า เช่น โรคเบาหวาน
ต้องตัดไหมหรือไม่
ขึ้นกับชนิดของไหมที่ศัลยแพทย์ได้เย็บไว้ ซึ่งมีทั้งชนิดไหมละลายและไหมไม่ละลาย โดยแพทย์จะแจ้งให้ท่านทราบ ทั่วไปจะตัดไหมหลังผ่าตัด 10 – 14 วัน ยกเว้นถ้าเย็บด้วยไหมละลายในชั้นใต้ผิวหนังก็ไม่ต้องตัดไหม
จะต้องกลับมาพบแพทย์ครั้งแรกหลังจากออกจากโรงพยาบาลกี่วัน
ขึ้นอยู่กับแพทย์พิจารณาผู้ป่วยแต่ละราย โดยทั่วไปจะประมาณ 7 – 10 วัน
หากแผลหายไม่ปกติจะมีอาการอย่างไร
หากแผลมีอาการปวดไม่ลดลงตามเวลาที่ผ่านไป บวม แดงร้อน หรือมีไข้ หรืออาจมีสารคัดหลั่งออกมาจากแผล ปวดหลังมากผิดปกติ ควรรีบกลับมาพบแพทย์
หลังผ่าตัดต้องใส่อุปกรณ์พยุงกระดูกสันหลัง (Brace) นานเท่าไร
การผ่าตัดกระดูกสันหลังบางชนิดอาจจะจำเป็นต้องใส่อุปกรณ์พยุงกระดูกสันหลัง ซึ่งโดยทั่วไปจะได้รับคำแนะนำให้ใส่ไว้ 1 – 2 เดือนหรือตามแพทย์สั่ง
ต้องพักฟื้นกี่วันจึงกลับไปทำงานได้
ผู้ป่วยส่วนมากจะรู้สึกสบายขึ้นมากใน 2 – 3 สัปดาห์ และสามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ แต่ในบางรายอาจต้องใช้เวลา 4 -8 สัปดาห์ กว่าที่จะสามารถไปทำงานได้ ทั้งนี้ขึ้นกับความแข็งแรงของร่างกายผู้ป่วย ลักษณะของงานที่ทำ และชนิดของการผ่าตัด
กิจกรรมในช่วงแรกหลังจากกลับบ้าน สำหรับการผ่าตัดกระดูกสันหลังส่วนเอวทั่วไป
สัปดาห์ที่ 1
-
เดินในบริเวณบ้านทุกวันบ่อยเท่าที่จะทำได้ เพิ่มระยะทาง และเวลาขึ้นวันละน้อย โดยไม่ลืมสวมอุปกรณ์พยุงหลังหรือคอ (Brace) และใช้ไม้เท้า
-
ไม่ควรนั่งนานเกิน 20 นาที
-
ขึ้นลงบันได ต้องเกาะราวบันไดเสมอ
-
รับประทานยาตามแพทย์สั่ง
-
ดูแลแผลตามที่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์
สัปดาห์ที่ 2
-
ทำกิจวัตรประจำวันได้มากขึ้น เดินได้ไกลขึ้น เดินได้บ่อยขึ้น แต่ยังคงต้องพักสม่ำเสมอ เมื่อรู้สึกเมื่อยหรือเพลีย
-
ยกของได้บ้างที่หนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม
-
ผู้ป่วยที่ฟื้นตัวเร็วไม่มีอาการปวดแล้วจะสามารถขับรถระยะทางใกล้ ๆ ได้ แพทย์อาจนัดให้ท่านกลับมาพบ เพื่อตรวจประเมินหลังผ่าตัด
สัปดาห์ที่ 3
-
ฝึกเดินพร้อมกับเพิ่มระยะทาง และเวลาเดินให้มากขึ้น
-
ทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้
-
ยกของหนักได้ไม่เกิน 5 กิโลกรัม
-
ผู้ป่วยที่อายุไม่มาก ร่างกายฟื้นตัวเร็ว อาจไม่ต้องใช้ไม้เท้าในการเดิน สวมอุปกรณ์พยุงตามคำแนะนำของแพทย์
สัปดาห์ที่ 4
-
การเดินจะทำได้มากขึ้นและไกลขึ้น
-
อาจเริ่มออกกำลังกายเบา ๆ ทำงานบ้านได้เพิ่มขึ้น
-
สามารถขับรถได้ไกลขึ้น
-
สามารถเดินได้โดยไม่ต้องใช้ไม้เท้า ใช้อุปกรณ์พยุงหลังหรือคอตามที่แพทย์แนะนำ
ในเดือนที่ 2 และ 3 หลังผ่าตัด จะสามารถเพิ่มกิจกรรมได้ เช่น ว่ายน้ำ ถีบจักรยานอยู่กับที่ และออกกำลังกายที่ไม่หักโหม
อย่างไรก็ตาม อาการตึงหลังอาจยังคงมีอยู่ไปจนระยะเวลา 3 – 5 เดือนจึงค่อยดีขึ้น คำแนะนำนี้สำหรับการผ่าตัดกระดูกสันหลังทั่วไป
แต่อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดบางประเภทมีคำแนะนำที่แตกต่างกว่านี้ โดยศัลยแพทย์จะประเมินจากสภาพโดยรวมของผู้ป่วย และชนิดของการผ่าตัดเป็นราย ๆ ไป ให้ยึดถือปฏิบัติตามที่แพทย์ผู้ผ่าตัดแนะนำเป็นหลัก แพทย์จะนัดกลับมาตรวจประเมินเป็นระยะ ๆ ผู้ป่วยจึงควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
กิจกรรมที่ควรทำและควรเว้นหลังการผ่าตัด
กิจกรรมที่ต้องเว้น
-
กิจกรรมที่ต้องก้มตัวสุดหรือแอ่นหลังสุดเป็นประจำ
-
ก้มหลังยกของ ก้มหลังเก็บของให้ใช้วิธีย่อเข่าแทน
-
ควรเว้นการยกของหนักมากเกินกำลัง
-
ไม่ควรอยู่ในที่ซึ่งมีการสั่นสะเทือน
-
ไม่นั่งนาน ๆ โดยเฉพาะในที่นั่งซึ่งอ่อนนุ่มจนทำให้หลังโค้งงอ หากงานที่ทำจำเป็นต้องนั่งตลอดทั้งวัน ควรหาโอกาสเดินเปลี่ยนอิริยาบถทุก 1 ชั่วโมง
กิจกรรมที่ควรทำ
-
เดินออกกำลังกาย โดยเพิ่มระยะการเดินขึ้นในแต่ละวัน
-
สวมรองเท้าที่มีส้นนุ่มรองรับการกระแทกเมื่อเดินหรือออกกำลังกาย
-
เมื่อแผลหายดีแล้ว แต่ยังมีอาการหลังตึง ให้ออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ เพื่อยึดและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
ขับรถทางไกลได้หรือไม่
ท่านสามารถขับรถได้เมื่ออาการปวดของท่านทุเลาลง โดยทั่วไปผู้ป่วยจะขับรถได้หลังผ่าตัดประมาณ 2 สัปดาห์ และจะสามารถขับรถได้ไกลขึ้นเมื่อผ่านไป 2 – 3 เดือน ควรหลีกเลี่ยงการขับรถต่อเนื่องระยะทางยาว หากจำเป็นต้องพักร่างกายควรเปลี่ยนอิริยาบถเป็นระยะ ๆ ทุก 1 – 2 ชั่วโมง
นั่งรถเดินทางไกลควรทำอย่างไร
เมื่อต้องนั่งรถเดินทางไกล ควรปรับพนักพิงให้เอียงลงมากกว่าปกติเพื่อถ่ายน้ำหนักไปยังแผ่นหลัง และพักเปลี่ยนท่าทางเป็นระยะ ๆ