หน้าหลัก
/ บทความสุขภาพ / โรคและการรักษา /
รู้ไว้ใช่ว่ากับโรคเอ็มเอสหรือ Multiple Sclerosis

โรคเอ็มเอส (MS) หรือ Multiple Sclerosis เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของปลอกประสาทในระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งได้แก่ สมอง ไขสันหลัง และเส้นประสาทตา ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดโรค แต่เชื่อว่าโรคนี้อาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม พันธุกรรม การติดเชื้อไวรัสบางชนิด การที่มีระดับวิตามินดีในร่างกายต่ำ หรือมีความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ร้อยละ 70 ของผู้ป่วยโรคเอ็มเอสจะเกิดอาการขึ้นในช่วงอายุระหว่าง 20 – 40 ปี ซึ่งเป็นประชากรที่อยู่ในวัยทำงาน จากการสำรวจพบว่า 3 ใน 4 ของผู้ป่วยเอ็มเอสได้รับผลกระทบต่อการทำงาน ทั้งนี้พบว่าหากปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษา มากกว่าร้อยละ 30 ของผู้ป่วยเอ็มเอสจะเกิดภาวะทุพพลภาพภายใน 20 – 25 ปี หลังเริ่มมีอาการครั้งแรก และพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 2 เท่า รวมไปถึงมีโอกาสถ่ายทอดทางพันธุกรรมหากพบมีพ่อแม่หรือพี่น้องเป็นประมาณ 1% ปัจจุบันประมาณการว่ามีประชากรโลกที่ป่วยเป็นโรคเอ็มเอสสูงอยู่ถึง 2.5 ล้านคน โดยโรคเอ็มเอสมีอุบัติการณ์สูงในประชากรผิวขาว แต่มีอุบัติการณ์ต่ำในประชากรชาวเอเชีย แอฟริกา และชนพื้นเมืองในทวีปอเมริกา

ลักษณะเฉพาะของโรคเอ็มเอส

โรคเอ็มเอสทำให้ระบบภูมิคุ้มกันตัวเองทำลายปลอกประสาท (Myelin) ซึ่งทำหน้าที่หุ้มเส้นประสาทส่วนกลาง ได้แก่ สมอง ไขสันหลัง รวมถึงเส้นประสาทที่เกี่ยวกับการมองเห็น ความเสียหายที่เกิดจากการทำลายปลอกหุ้มประสาทจะทำให้การส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ประสาทช้าลงหรือขัดขวางการส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ประสาท เป็นสาเหตุให้เกิดอาการต่าง ๆ ในโรคเอ็มเอส

โดยมักจะพบอาการผิดปกติของระบบประสาทเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ซึ่งเป็นผลมาจากการอักเสบของระบบประสาทส่วนกลาง อาการผิดปกติเหล่านี้เรียกว่า การกำเริบหรือการกลับเป็นซ้ำของโรค ซึ่งอาการที่เกิดจากการกำเริบของโรคมีได้หลากหลายแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย แต่ที่พบได้บ่อย ได้แก่

  • ปัญหาเกี่ยวกับการเดิน มีอาการเกร็ง ปวด ขากระตุก ปัสสาวะไม่ออก
  • อาการชาแน่น ๆ รอบอก อ่อนแรงหรือรู้สึกเหมือนมีเข็มแทง ปวดร้าวที่คอและกลางหลัง
  • ปัญหาเรื่องการมองเห็น ตามัวกึ่งเฉียบพลัน เห็นภาพซ้อน สีผิดเพี้ยน
  • ปัญหาเรื่องการทรงตัว ทรงตัวลำบาก มีลักษณะเฉพาะคือ มักเป็นและดีขึ้นเอง จากนั้นจะมีอาการกำเริบซ้ำในตำแหน่งเดิมหรือตำแหน่งใหม่

ดังนั้นจึงต้องหมั่นสังเกตตนเองและอย่ารอช้าที่จะพบแพทย์ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของโรคเอ็มเอส

การวินิจฉัยโรค

หากสังเกตอาการและพบแพทย์ทางระบบประสาทร่วมกับการตรวจ MRI สมองและไขสันหลัง รวมทั้งการตรวจเลือดและน้ำไขสันหลังได้ตั้งแต่ในระยะแรกและได้รับการดูแลที่ถูกต้อง สามารถลดภาวะทุพพลภาพและป้องกันการเกิดอาการกำเริบและภาวะสมองเสื่อมถอยในอนาคตได้

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาโรคเอ็มเอสให้หายขาด แต่สามารถชะลอการเกิดความพิการหรือลดจำนวนครั้งของการกำเริบอาการโรคเอ็มเอสได้ด้วยยา ทั้งยาฉีดและยาเม็ด ซึ่งจะรักษาเมื่อโรคกำเริบและการป้องกันภาวะโรคกำเริบด้วยยาบางกลุ่มเพื่อปรับเปลี่ยนการดำเนินของโรค รวมถึงรักษาตามอาการที่แสดงอีกด้วย ทำให้การรักษาสะดวกขึ้นและมีประสิทธิภาพดีกว่าสมัยก่อน

ด้วยโรคเอ็มเอสนั้นยังไม่ทราบสาเหตุของโรคอย่างแน่ชัดจึงไม่สามารถป้องกันได้ จึงควรดูแลสุขภาพของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น

  • การออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
  • ลด ละ เลิกสุราและบุหรี่
  • พักผ่อนให้เพียงพอและไม่เครียด

รวมทั้งเมื่อพบความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายให้รีบไปพบแพทย์ทันที จึงน่าจะเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดให้ห่างไกลจากโรคเอ็มเอสและโรคร้ายแรงอื่น ๆ อีกด้วย

ข้อมูล :พญ. จันจิรา สาธุกิจชัย
อายุรแพทย์ระบบสมองและประสาท ศูนย์โรคสมองและระบบประสาท โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล